กรณีศึกษา กระเป๋าเงินดิจิทัล เวียดนาม ที่เติบโตร้อนแรง /โดย ลงทุนแมน
ประเทศเวียดนาม มีสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงสมาร์ตโฟนในปี ค.ศ. 2020 อยู่ที่ 63.1% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงในระดับเดียวกันกับประเทศจีน และเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามจะเป็นรองแค่สิงคโปร์กับมาเลเซีย
แต่ถ้ามาดูจำนวนสาขาธนาคารต่อจำนวนประชากร รวมถึงสัดส่วนการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด
ประเทศเวียดนามกลับมีสัดส่วนเหล่านี้ เกือบจะน้อยที่สุดในภูมิภาค
นั่นจึงเป็นโอกาสของธุรกิจการให้บริการทางการเงินบนสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีฐานลูกค้าที่พร้อมจะใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังอยู่ในช่วงที่เติบโตเร็ว
ซึ่งนั่นก็ได้ดึงดูดให้บริษัทสตาร์ตอัปเข้ามาแข่งขันกันมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม E-Wallet หรือ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่มีการแข่งขันกันรุนแรง
แล้วผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลในเวียดนามมีใครบ้าง และใครเป็นผู้นำอยู่ตอนนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของธนาคารกลางเวียดนาม รู้หรือไม่ว่าผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลมีมากถึง 34 ราย
แต่ส่วนแบ่งตลาดเกือบทั้งหมด กลับถูกครอบครองโดยผู้ให้บริการไม่กี่เจ้า
เมื่อดูจากมูลค่าบริษัท “VNPAY” คือสตาร์ตอัปด้านฟินเทคที่ถูกประเมินมูลค่าไว้มากที่สุด โดยมีมูลค่าราว 33,000 ล้านบาท
VNPAY เป็นยูนิคอร์นสตาร์ตอัปบริษัทที่ 2 ของเวียดนาม ต่อจากบริษัท VNG
โดย VNG ที่เป็นยูนิคอร์นรายแรกนั้น เป็นเจ้าของแอปพลิเคชันแช็ต ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศ ที่ชื่อว่า “Zalo”
อย่างไรก็ตาม VNPAY ที่เป็นยูนิคอร์นรายที่ 2 นี้ไม่ได้สร้างแอปพลิเคชันเป็นของตัวเองแบบฟินเทคเจ้าอื่น แต่จะให้บริการซอฟต์แวร์กับธนาคาร ที่อยากมีบริการแอปพลิเคชันชำระเงินบนสมาร์ตโฟน รวมถึงบริการทางการเงินดิจิทัลด้านอื่น ๆ
นอกจากนี้ VNPAY ยังให้บริการระบบชำระเงินผ่าน QR Code ให้กับร้านค้าต่าง ๆ เพื่อรับชำระเงินจากลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารที่เลือกใช้ซอฟต์แวร์จาก VNPAY
VNPAY ได้ให้บริการซอฟต์แวร์กับธนาคารกว่า 40 แห่ง
มีร้านค้าที่ใช้บริการระบบ QR Code กว่า 150,000 ร้านค้า
คิดเป็นจำนวนผู้ใช้งานผ่านระบบของ VNPAY ทั้งหมด ราว 22 ล้านบัญชี
แต่ผู้ใช้งาน 22 ล้านบัญชีนี้ ก็ยังไม่ได้ทำให้ VNPAY เป็นผู้ชนะ เพราะแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมสูงและกำลังแข่งขันกันแย่งผู้ใช้งานในเวียดนาม มีทั้งหมด 3 ราย นั่นก็คือ MoMo, ZaloPay และ Moca ซึ่งก็น่าสนใจว่าทั้ง 3 รายเป็นแอปพลิเคชัน ที่ก่อตั้งโดยชาวเวียดนามทั้งหมด
3 แอปพลิเคชันนี้ มีบริการหลักที่ไม่แตกต่างกันมาก เพราะแต่ละบริษัทก็ได้ขยายช่องทางการชำระเงินให้หลากหลาย จนครอบคลุมความต้องการส่วนใหญ่ของชาวเวียดนามแล้ว
โดยบริการที่ชาวเวียดนามนิยมใช้มากที่สุดเรียงตามลำดับก็คือ เติมเงินเข้ามือถือ, โอนเงิน, จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ, จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันสั่งอาหาร, จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันเรียกรถ และจ่ายเงินที่หน้าร้านค้า
จากความนิยมในการใช้งาน เราจะสังเกตได้ว่า ชาวเวียดนามยังไม่นิยมใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นช่องทางการจ่ายเงินซื้อของออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ
ส่วนนี้ก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าสัดส่วนการซื้อของผ่านทางออนไลน์ในเวียดนาม ยังคงคิดเป็นเพียง 3% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ ShopeePay ของ Shopee ได้รับความนิยมไม่มากเท่าที่ควร
ทั้ง ๆ ที่ Shopee เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ชาวเวียดนามใช้งานมากที่สุด
กลับมาที่ MoMo, ZaloPay และ Moca ที่แม้จะมีบริการหลักไม่ต่างกันมาก
แต่สิ่งที่ทั้ง 3 แอปพลิเคชันนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก็คือ “กลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้า”
เริ่มจาก “Moca” ที่เปิดตัวแอปพลิเคชันในปี ค.ศ. 2013 เลือกใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าด้วยการเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับ Grab เมื่อปี ค.ศ. 2018 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสั่งอาหารดิลิเวอรีและเรียกรถ
โดยปัจจุบัน Moca ได้เข้าไปเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงิน บนแพลตฟอร์มของ Grab แล้ว
ในขณะเดียวกัน “ZaloPay” ที่เปิดตัวแอปพลิเคชันในปี ค.ศ. 2017 เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้พัฒนาแอปพลิเคชันแช็ต Zalo จึงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ ฐานผู้ใช้งาน
เพราะ Zalo เป็นแอปพลิเคชันแช็ตที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวียดนาม เป็นจำนวนกว่า 62 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของประชากรเวียดนามทั้งประเทศ
จึงไม่แปลกเลยที่ ZaloPay สามารถขยายฐานลูกค้าผ่านผู้ใช้งานบน Zalo ได้ทันที
วิธีการนี้ก็ถูกพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วจากหลายบริษัท เช่น Tencent เจ้าของแอปพลิเคชันแช็ต WeChat ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในจีน เมื่อตอนที่ได้เปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัล ก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น 1 ใน 2 ของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศจีน เช่นกัน
แต่แม้จะมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่เป็นจุดแข็ง ZaloPay ก็ยังไม่ใช่ผู้ชนะในเวลานี้
เพราะแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด
คิดเป็นราว 60% ของการชำระเงินผ่านสมาร์ตโฟนในเวียดนาม ชื่อว่า “MoMo”
แล้ว MoMo มีกลยุทธ์ดึงผู้ใช้งานอย่างไร ?
MoMo เริ่มเปิดตัวในปี ค.ศ. 2013 แต่บริษัทผู้พัฒนา MoMo ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทขายบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งบริษัทเห็นโอกาสจากการที่คนใช้มือถือมากขึ้น
ทางบริษัทจึงได้เปลี่ยนธุรกิจมาเป็นให้บริการระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟนแทน
ผู้บริหาร MoMo ให้ความสำคัญกับข้อมูลยอดค้าปลีกในเวียดนาม ที่เกือบทั้งหมดยังมาจากช่องทางออฟไลน์
นั่นจึงทำให้ MoMo แม้ว่าจะมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ แต่ทางบริษัทก็ได้เน้นการเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับเชนร้านสะดวกซื้อ เชนซูเปอร์มาร์เก็ต และเชนร้านกาแฟมากกว่า ซึ่งยังมีสัดส่วนการชำระเงินด้วยสมาร์ตโฟนที่น้อยอยู่ แต่เป็นบริการที่คนส่วนใหญ่ในเวียดนามใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
โดยเฉพาะร้านกาแฟ ที่คนส่วนมากใช้บริการทุกวันและบางคนอาจจะมากกว่าวันละครั้ง
ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ใช้งาน MoMo มีโอกาสเปิดแอปพลิเคชันเป็นจำนวนครั้งที่มากขึ้น
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ MoMo ได้จับมือกับเชนร้านกาแฟท้องถิ่น ซึ่งรวมถึง Highlands Coffee เชนร้านกาแฟที่มีส่วนแบ่งตลาดมากสุดในเวียดนาม ที่มีอยู่ราว 300 สาขา เพื่อให้ส่วนลดค่ากาแฟเมื่อจ่ายผ่าน MoMo ซึ่งลูกค้ายังสามารถสั่งกาแฟผ่านแอปพลิเคชันแล้วเลือกเวลาไปรับได้ด้วย
นอกจากนี้ MoMo ยังได้ต่อยอดแอปพลิเคชันให้เป็นแบบออลอินวัน หรือการให้บริการที่หลากหลายนอกเหนือไปจากการชำระเงิน
อย่างเช่น บริการซื้อตั๋วภาพยนตร์ สั่งอาหารดิลิเวอรี จองตั๋วเครื่องบิน บริการเกม ไปจนถึงซื้อประกันและขอสินเชื่อส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกันของกระเป๋าเงินดิจิทัลในเวียดนามยังคงดุเดือด เพราะที่ผ่านมา ทุกแอปพลิเคชันต่างแข่งขันกันอัดโปรโมชันแบบไม่มีหยุด
ทั้งการให้ส่วนลด บัตรกำนัล เครดิตเงินคืน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเร่งกอบโกยลูกค้าให้ได้มากที่สุดก่อน
ซึ่งนอกจากจะต้องแลกมาด้วยการขาดทุนมหาศาลแล้ว โปรโมชันเหล่านี้ยังทำให้ลูกค้าไม่มีความภักดีต่อแบรนด์ สอดคล้องกับผลสำรวจที่ว่า แม้ชาวเวียดนามจะใช้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลอยู่ไม่กี่แอปพลิเคชัน แต่ก็มักเลือกเจ้าที่ให้ส่วนลดมากที่สุดในเวลานั้น
ดังนั้นนอกจากการอัดโปรโมชันแข่งกันแล้ว เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่บอกว่า แอปพลิเคชันที่จะรักษาลูกค้าไว้ได้ในระยะยาว ก็คือผู้ที่เร่งเพิ่มจำนวนจุดรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันของตัวเองให้ได้มากที่สุดก่อน โดยเฉพาะในสถานที่ที่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ใช้บริการบ่อย ๆ อย่างเช่นตลาดสดและร้านอาหาร
ซึ่งกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าแบบ MoMo ก็ดูจะมาถูกทางที่สุด เพราะทางบริษัทได้โฟกัสไปที่แหล่งชุมชนตั้งแต่เชนร้านสะดวกซื้อไปจนถึงร้านกาแฟ
แต่ถ้าจะฟันธงเลยว่า MoMo คือแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เป็นผู้ชนะแบบขาดลอยในเวียดนามคล้ายกับ GrabPay ของ Grab ในสิงคโปร์ หรือ GoPay กับ OVO ของ GoTo ในอินโดนีเซีย ก็อาจจะเร็วเกินไป
แต่ที่พอจะบอกได้ ก็คือ MoMo ติดกระดุมเม็ดแรกเสร็จแล้ว และกำลังได้เปรียบผู้เล่นกระเป๋าเงินดิจิทัลรายอื่นในเวียดนามอยู่ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://asia.nikkei.com/Business/Business-Spotlight/Vietnam-emerges-as-Southeast-Asia-s-next-fintech-battleground
-https://asia.nikkei.com/Business/Startups/Vietnam-s-fintech-VNLife-says-valuation-now-well-over-1bn
-https://www.techinasia.com/vietnams-ewallet-momo-announced-series-led-warburg-pincus-goodwater-capital
-https://vir.com.vn/e-wallet-groups-take-on-losses-to-get-ahead-84419.html
-https://vir.com.vn/e-wallets-promotion-programmes-see-less-appetising-82422.html
-https://vir.com.vn/e-wallet-services-start-to-gain-momentum-in-vietnam-75067.html
-https://data.worldbank.org/indicator/FB.CBK.BRCH.P5?locations=VN-TH-ID-PH-SG-MY
-https://www.statista.com/statistics/539395/smartphone-penetration-worldwide-by-country/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅わたべおーと,也在其Youtube影片中提到,今回はcx5ベトナム版の話。 これすごいです! 4本出しのビルトインマフラーcx5、cx8、MAZDA3、6などにも装着されているようです。 日本のMAZDA車には着く可能性は低そうですがかっこいい! 最も最も高い車買取会社はどこ?全国230社車買取一括査定 https://t.afi-b.com...
vietnam statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จัก Vinamilk ผู้ผลิตนมสัญชาติเวียดนาม ที่ใหญ่กว่า CPF /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า บริษัทนมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามมีมูลค่ามากกว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรในประเทศไทย
บริษัทนี้ชื่อว่า “Vinamilk” ที่น่าสนใจคือ
หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Vinamilk คือบริษัทของคนไทยอีกด้วย
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Vinamilk หรือชื่อเต็มคือ Vietnam Dairy Products Joint Stock Company ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดยบริษัท Southern Coffee-Dairy ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลที่ไปซื้อกิจการมาจากบริษัทเอกชนอีกที
Vinamilk เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2003
โดยปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Vinamilk คือ
- กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนาม (State Capital Investment Corporation) ถือหุ้นอยู่ 36.0%
- กลุ่มบริษัท F&N ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นอยู่ 20.0%
- Jardine บริษัทโฮลดิงจากสิงคโปร์ ถือหุ้นอยู่ 10.6%
- ผู้ถือหุ้นรายย่อย ถือหุ้นอยู่ 33.4%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนในหุ้น Vinamilk ไม่สามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Holding Limit) ให้ถือได้ไม่เกิน 49%
ที่เป็นแบบนี้ เพราะรัฐบาลเวียดนามเกรงว่า ถ้านักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อาจทำให้เข้ามามีอิทธิพลกับการดำเนินงานของบริษัทมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้วในปี 2016 โดยอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถือหุ้นในบริษัทได้สูงสุด 100%
แต่ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่สุดก็ยังเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนามอยู่ดี
ปัจจุบัน Vinamilk ทำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนมรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีโรงงานผลิตนม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 15 แห่ง กระจายอยู่ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา
สินค้าของบริษัทที่ผลิตออกมาขายนั้นมีมากกว่า 250 รายการ เช่น นมพร้อมดื่ม, นมผง, โยเกิร์ต, นมข้นหวาน, ครีมเทียมข้นหวาน, ไอศกรีม, ชีส, นมถั่วเหลือง
รู้ไหมว่า ผลิตภัณฑ์นมหลายชนิดของ Vinamilk ครองส่วนแบ่งในสัดส่วนที่สูงในเวียดนาม เช่น
โยเกิร์ต 83%
นมข้น 79%
นมเหลว 59%
นมผง 42%
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Vinamilk มีความได้เปรียบในการทำธุรกิจคือ การที่บริษัททำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนม ครอบคลุม “ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” โดยเริ่มตั้งแต่
- มีฟาร์มโคนมของตัวเอง รวมไปถึงการทำสัญญาซื้อขายนมจากฟาร์มจากเครือข่ายเกษตรกร
- มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- มีระบบกระจายสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้วางขายได้หลายช่องทาง ตั้งแต่ร้านค้าปลีกดั้งเดิม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โรงแรม และร้านอาหาร
ปัจจุบัน สินค้าของบริษัทมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศถึง 55 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยที่ Vinamilk เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2016
รายได้และกำไรของ Vinamilk
ปี 2018 รายได้ 73,600 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 79,000 ล้านบาท กำไร 14,800 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 83,600 ล้านบาท กำไร 15,700 ล้านบาท
แม้ว่าปีที่ผ่านมา วิกฤติโควิด 19 จะทำให้เศรษฐกิจเวียดนามโตได้เพียง 2.9% ต่ำสุดในช่วงปี 2011-2020 แต่ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ประมาณ 6%
ซึ่งบริษัทก็ให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เริ่มหันมาบริโภคนมและโยเกิร์ตกันมากขึ้น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ในปี 2019 ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่าเวียดนาม เป็นประเทศที่คนบริโภคนมยังถือว่าอยู่ในอัตราต่ำ เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ
- คนเกาหลีใต้ บริโภคนม 42.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนไทย บริโภคนม 33.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนมาเลเซีย บริโภคนม 25.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนจีน บริโภคนม 22.3 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนเวียดนาม บริโภคนม 21.8 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
นอกจากนี้ อีกกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าธุรกิจของ Vinamilk มีโอกาสเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่ายังเติบโตในระดับสูง
โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6.5-7.5% ต่อปี ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2030
เมื่อรวมกับการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ
การดื่มและทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
และตลาดผู้บริโภคของเวียดนาม ที่มีประชากรมากถึง 98 ล้านคน
ธุรกิจผลิตนมของ Vinamilk ก็ดูจะมีโอกาสให้เติบโต ได้อีกไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปี 2015 มูลค่าบริษัท Vinamilk เท่ากับ 127,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ Vinamilk เพิ่มขึ้นมาเป็น 250,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาเกือบ 1 เท่าตัว
ทำให้ไม่เพียงแต่ Vinamilk ถือเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียน ที่มีขนาดใหญ่รายหนึ่งในตลาดหุ้นเวียดนาม
แต่ยังใหญ่กว่าหุ้นของบริษัท CPF ที่มีมูลค่า 220,000 ล้านบาท ในวันนี้..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.vinamilk.com.vn/en/investor-relations
-https://pitchbook.com/profiles/company/51388-93
-https://www.statista.com/statistics/1116885/vinamilk-market-share-of-dairy-products-by-type/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vinamilk
-https://en.wikipedia.org/wiki/Jardine_Cycle_%26_Carriage
-https://forbesthailand.com/world/asia/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3.html
-https://www.macrotrends.net/countries/VNM/vietnam/population-growth-rate
-https://www.worldometers.info/world-population/vietnam-population/
vietnam statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
เวียดนาม ประเทศปราบเซียน ฟาสต์ฟูดทุกแบรนด์บนโลก /โดย ลงทุนแมน
Starbucks คือเชนร้านกาแฟอันดับหนึ่งที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
ไม่ว่าแบรนด์นี้ จะไปทำธุรกิจที่ประเทศไหน
เราก็มักจะเห็นว่าแบรนด์นี้ กลายมาเป็นที่นิยมแทบทั้งนั้น
แต่จริง ๆ แล้ว Starbucks ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกประเทศ
และหนึ่งในประเทศที่บริษัทล้มเหลว ก็คือ “เวียดนาม”
นั่นก็เพราะประเทศเวียดนาม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศ
ที่ส่งออกเมล็ดกาแฟมากเป็นอันดับสองของโลกแห่งนี้
มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟเฉพาะตัว อย่างเช่นกาแฟดำใส่ไข่แดงและกาแฟดำใส่นมข้น
และคนเวียดนามยังชื่นชอบเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสตามากกว่าอะราบิกาที่เหล่าเแบรนด์ต่างประเทศเลือกใช้กัน
นอกจากตลาดร้านกาแฟ ที่แบรนด์ดังระดับโลกเข้าไปเจาะตลาดได้ยากแล้ว
ในประเทศเวียดนาม เชนร้านอาหารฟาสต์ฟูดชื่อดัง ก็ต้องเจอกับความท้าทายเช่นกัน
แล้วอะไรกัน ที่ทำให้เวียดนามกลายเป็นตลาดปราบเซียน ของแบรนด์ดังระดับโลก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
หากเรามาดู ร้านอาหารฟาสต์ฟูดที่ครองส่วนแบ่งตลาดได้มากที่สุดในโลก
อันดับที่ 1 McDonald's ครองส่วนแบ่งตลาด 21.4%
อันดับที่ 2 KFC ครองส่วนแบ่งตลาด 2.8%
อันดับที่ 3 Subway ครองส่วนแบ่งตลาด 2.8%
เชนร้านอาหารสัญชาติอเมริกันเหล่านี้ เป็นที่นิยมในหลายประเทศ
หนึ่งในนั้นก็คือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย
แต่นั่นไม่ใช่สำหรับในประเทศเวียดนาม
ปี 1997 KFC เป็นเชนฟาสต์ฟูดของสหรัฐอเมริกาเจ้าแรก
ที่เข้ามาเปิดสาขาในประเทศเวียดนาม
หลังจากผ่านไปได้ 10 ปี KFC ยังคงมีเพียง 10 สาขา
ปี 2011 Burger King ก็เข้ามาตีตลาดแห่งนี้เช่นกัน
โดยตั้งเป้าจะขยายให้ได้ 60 สาขาภายใน 5 ปี
แต่ 10 ปีผ่านไป กลับเปิดได้เพียง 13 สาขา
ปี 2014 McDonald's ได้เข้าร่วมท้าชิงในประเทศนี้ด้วย
ซึ่งภาพในวันแรกที่เปิดให้บริการ ก็ไม่ทำให้เสียชื่อแชมป์โลก
เพราะชาวเวียดนามต่างมาเข้าคิวอย่างล้นทะลัก เพื่อลองชิมแฮมเบอร์เกอร์ยี่ห้อดัง
โดย McDonald's ก็ตั้งเป้าจะเปิดสาขาให้ได้ 100 สาขาภายใน 10 ปี
แต่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผ่านไปแล้ว 7 ปี กลับมีเพียง 23 สาขา
จากจำนวนสาขาที่คาดการณ์ไว้ของทุกแบรนด์ไม่เป็นไปตามกำหนด
คงพอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่าการเข้ามาตีตลาดในเวียดนามของร้านฟาสต์ฟูดเหล่านี้ ทำได้ไม่ง่ายเลย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทุกแบรนด์ต่างก็แก้เกมด้วยการปรับเมนูและรสชาติให้ถูกปากคนเวียดนามมากขึ้น
แต่ก็มีเพียง KFC ที่ทำได้สำเร็จ และขยายสาขาเพิ่มเติมจาก 10 สาขาจนมี 138 สาขาได้ในปัจจุบัน
ถ้าปัญหาคือรสชาติที่ไม่ค่อยถูกปาก แล้วเชนฟาสต์ฟูดสัญชาติเอเชีย
ที่วัฒนธรรมอาหารมีความใกล้เคียงกันมากกว่า สามารถครองใจชาวเวียดนามได้หรือไม่
เชนฟาสต์ฟูดจากเอเชียที่เป็นเจ้าตลาดในประเทศเวียดนาม มีอยู่ 2 แบรนด์
Jollibee เชนฟาสต์ฟูดจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมาเปิดสาขาแรกที่เวียดนามในปี 1996
Lotteria เชนฟาสต์ฟูดของ Lotte จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มมีที่เวียดนามในปี 1998
เมื่อสรุปจำนวนสาขาในเวียดนามของเชนฟาสต์ฟูดชื่อดังเหล่านั้น
Lotteria มีจำนวน 151 สาขา
KFC มีจำนวน 138 สาขา
Pizza Hut มีจำนวน 100 สาขา
Jollibee มีจำนวน 97 สาขา
McDonald's มีจำนวน 23 สาขา
Burger King มีจำนวน 13 สาขา
จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ชนะของตลาดนี้ในด้านจำนวนสาขา
ก็คือเชนฟาสต์ฟูดจากเอเชียอย่าง Lotteria และ Jollibee
รวมไปถึง KFC ที่ปรับเมนูจนถูกปากชาวเวียดนามได้มากที่สุด
และ Pizza Hut ที่ดูแลโดยเครือ Yum! Brands เหมือน KFC
ถึงแม้จะเป็นผู้ชนะในการขยายสาขา
แต่พอเรามาดูผลประกอบการแล้ว
เกือบทุกแบรนด์จะประสบปัญหาการขาดทุน
เพราะแม้ว่ารายได้ของทั้ง Lotteria, Jollibee และ Pizza Hut จะเติบโตได้ดี
แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นทำกำไรได้และยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ก็จะมีเพียง KFC ที่ทำกำไรได้ แต่ถ้ามาดูความสำเร็จในการขยายสาขา
ที่ประเทศเวียดนาม ก็ยังถือว่าทำได้น้อยกว่าในประเทศอื่นที่เข้าไปลงทุน
เพราะเมื่อรวมจำนวนสาขาของทั้ง 6 แบรนด์ที่กล่าวมา จะมีทั้งหมด 522 สาขา
ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก และถ้าถามว่าน้อยแค่ไหน ลองเทียบกับในประเทศไทย
ที่จำนวนสาขาของ KFC เพียงอย่างเดียว ก็มีมากกว่า 800 สาขาแล้ว
แล้วอะไรกันที่ทำให้ร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังระดับโลก
ไม่สามารถครองใจชาวเวียดนามได้ ?
เหตุผลอย่างแรก อาหารพื้นเมืองของเวียดนาม มีความรวดเร็ว ในการปรุงอยู่แล้ว ดังนั้นฟาสต์ฟูดจึงอาจไม่จำเป็นสำหรับคนเวียดนาม
“เฝอ” หรือก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม และบั๊ญหมี่ หรือแซนด์วิชเวียดนาม
เป็นสตรีตฟูดที่ได้รับความนิยมสูงมาก และที่สำคัญคือใช้เวลาทำน้อยมากอยู่แล้ว
นั่นจึงทำให้จุดขายของเชนฟาสต์ฟูดในเรื่องความเร็ว จึงไม่สามารถดึงดูดชาวเวียดนามได้
เหตุผลอย่างที่สอง อาหารพื้นเมืองของเวียดนาม ราคาสบายกระเป๋ากว่า
ประชากรเวียดนาม ยังมีสัดส่วนของผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูงอยู่ไม่มาก
แต่ราคาอาหารจากเชนฟาสต์ฟูดเหล่านี้ ไม่ได้สอดคล้องกับรายได้และค่าครองชีพ
ด้วยจำนวนเงินเท่ากัน จึงสามารถซื้ออาหารพื้นเมืองได้ในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่า
เหตุผลอย่างที่สาม ชาวเวียดนามมีวัฒนธรรมการกินแบบ แชร์กันเป็นกลุ่ม
แม้เฝอและบั๊ญหมี่จะเป็นสตรีตฟูดที่ชาวเวียดนามชื่นชอบ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกประจำ
เพราะชาวเวียดนามนิยมไปทานอาหารกันเป็นกลุ่ม แชร์อาหาร และพูดคุยกัน
ซึ่งอาหารแบบฟาสต์ฟูดจะเป็นสไตล์ต่างคนต่างกินเสียมากกว่า
ซึ่งไม่เข้ากับวัฒนธรรมของชาวเวียดนาม
เหตุผลเหล่านี้ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เชนฟาสต์ฟูดยักษ์ใหญ่ ไม่เป็นที่นิยมในเวียดนาม
ร้านอาหารในประเทศเวียดนาม ที่มีอยู่กว่า 540,000 ร้าน จึงเป็นร้านอาหารท้องถิ่นกว่า 80%
ซึ่งแนวโน้มเรื่องความนิยมของเชนฟาสต์ฟูดเหล่านี้ก็ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงปี 2016 ถึง 2018 จำนวนคนเวียดนามที่เข้าร้านฟาสต์ฟูดต่างชาติลดลง 31%
สวนทางกับจำนวนคนเข้าร้านอาหารท้องถิ่น ที่เพิ่มขึ้นถึง 70% ในช่วงเวลาเดียวกัน
และผลกระทบจากโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการเชนฟาสต์ฟูดจากต่างชาติเหล่านี้
ต้องเจ็บหนักมากขึ้นไปอีก ขนาด Lotteria ที่มีจำนวนสาขามากที่สุด
ก็เผชิญผลขาดทุนอย่างหนัก จนมีข่าวว่าจะประกาศเลิกกิจการในประเทศเวียดนาม
แต่ในภายหลัง ผู้บริหารได้ออกมาปฏิเสธ
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า
ผู้ประกอบการฟาสต์ฟูดระดับโลก จะฝ่าฟันวิกฤติ
และกลับมาสู้ต่อในตลาดปราบเซียน อย่างเวียดนามได้หรือไม่..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2018/09/13/mcdonalds-burger-king-vietnam-fast-food.html
-https://bettermarketing.pub/why-mcdonalds-failed-in-vietnam-35dc27edcaa
-https://www.t4.ai/industry/fast-food-market-share
-http://hanoitimes.vn/south-korean-fast-food-chain-expands-investment-in-vietnam-317084.html
-https://vietnamcredit.com.vn/news/vietnams-fast-food-market-three-market-leaders_14142
-https://e.vnexpress.net/news/business/industries/pizza-chains-post-double-digit-growth-4165125.html
-https://www.retailnews.asia/lotte-vietnam-denies-reports-it-will-close-lotteria-fast-food-chain/
-https://www.statista.com/statistics/1015000/vietnam-leading-fast-food-store-brands/
vietnam statistics 在 わたべおーと Youtube 的精選貼文
今回はcx5ベトナム版の話。
これすごいです!
4本出しのビルトインマフラーcx5、cx8、MAZDA3、6などにも装着されているようです。
日本のMAZDA車には着く可能性は低そうですがかっこいい!
最も最も高い車買取会社はどこ?全国230社車買取一括査定
https://t.afi-b.com/visit.php?guid=ON&a=b88H-p153097u&p=Z699505a
参考記事
Mazda CX-5 bản nâng cấp ra mắt NGẬP TRÀN CÔNG NGHỆ: Camera 360, Apple CarPlay
https://youtu.be/Zq9g8d_nsRM
Vlog: Đi Xem New Mazda6 2020 bản 2.0 Premium tùy chọn max ốp sườn | Vlogxe.vn
https://youtu.be/Spic-xIZTYY
Đánh giá nhanh Mazda CX-8 lắp ráp tại Việt Nam: THỰC SỰ NGON?
https://youtu.be/ahq8x9zxPmk
Mazda 3 2020 đẹp thế này, bá đạo phân khúc?
https://youtu.be/t_qvyVpi-Lw
自動車販売台数速報 ベトナム 2019年
https://www.marklines.com/ja/statistics/flash_sales/salesfig_vietnam_2019
撮影機材
パナソニックG8
https://www.amazon.co.jp/gp/product/B01M0TWLFQ/ref=as_li_tl?ie=UTF8&camp=247&creative=1211&creativeASIN=B01M0TWLFQ&linkCode=as2&tag=shiokawa5507-22&linkId=99da561bd0b00e192450d46a8d0a7571
パナソニックS5
ワイヤレスGO マイク
https://www.amazon.co.jp/gp/product/B07QGGBNMN/ref=as_li_tl?ie=UTF8&camp=247&creative=1211&creativeASIN=B07QGGBNMN&linkCode=as2&tag=shiokawa5507-22&linkId=d3cbabea28ab757c3e7890fb0bce09d8
MOZA Aircross 2
https://www.amazon.co.jp/gp/product/B07WRSW269/ref=as_li_tl?ie=UTF8&camp=247&creative=1211&creativeASIN=B07WRSW269&linkCode=as2&tag=shiokawa5507-22&linkId=7ccb5d83f2e3743f2c26fbbdda78b970
コンデンサーマイク マランツ
https://www.amazon.co.jp/gp/product/B01GJ9IUNY/ref=as_li_tl?ie=UTF8&camp=247&creative=1211&creativeASIN=B01GJ9IUNY&linkCode=as2&tag=shiokawa5507-22&linkId=cd8158055d625bcf9860ab4c3a54288e
目次
0:00 ベトナムのcx5
0:36 ベトナムでのcx5価格
2:51 ベトナムのcx5が凄い
5:45 ベトナムの車事情
vietnam statistics 在 General Statistics Office of Viet Nam - YouTube 的必吃
Founded in 1946, the General Statistics Office of Viet Nam (GSO) is the state agency producing and providing almost all of official ... ... <看更多>